ปัญหาขยะอาหารเป็นเรื่องที่ทั่วโลกกำลังให้ความสนใจและใส่ใจในการแก้ปัญหาอย่างจริงจัง การทิ้งอาหารนอกจากจะมีต้นทุนแล้ว ยังสร้างมลพิษให้โลกของเราอีกด้วย ทำให้หลายธุรกิจโดยเฉพาะวงการอาหารออกแคมเปญเพื่อลดปัญหาดังกล่าว “กาแฟนางเงือก” หรือ “สตาร์บัคส์” ที่เราคุ้นเคยก็เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ออกมาขานรับเทรนด์นี้ค่ะ
ขนมลด 20% ก่อนปิดร้าน
เมื่อวันที่ 19 สิงหาคมที่ผ่านมา สตาร์บัคส์คอฟฟี่เจแปนประกาศจะลดราคาเบเกอรี่ที่ใกล้จะหมดอายุ 20% ก่อนปิดร้าน 3 ชั่วโมง เพื่อเป็นการลดขยะอาหาร โดยจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 23 สิงหาคมเป็นต้นไปที่สตาร์บัคส์กว่า 1,600 สาขาทั่วญี่ปุ่น สินค้าที่ร่วมรายการได้แก่ อาหารบรรจุหีบห่อ (Packaged Food) แซนด์วิช และเบเกอรี่ ส่วนเครื่องดื่มจะไม่เข้าร่วมรายการ โดยสามารถสังเกตสินค้าที่ลดราคาได้จากป้ายที่หน้าตู้ขนมค่ะ ทั้งนี้การลดราคาสินค้าจะขึ้นอยู่กับสต็อคของแต่ละสาขาในแต่ละวันว่าเหลือมากน้อยเพียงใด อาจจะต้องพึ่งดวงและการคาดคะเนกันสักเล็กน้อยนะคะ นอกจากนี้สตาร์บัคส์เจแปนยังวางแผนที่จะบริจาคกำไรบางส่วนจากโครงการนี้ให้กับองค์กรเพื่อการกุศลต่างๆ ทั่วประเทศอีกด้วย
แคมเปญดังกล่าวเกิดขึ้นเพื่อสอดรับกับพันธกิจที่จะใช้ทรัพยากรในเชิงบวก (Resource Positive) สตาร์บัคส์เจแปนมีเป้าหมายที่จะลดขยะในร้านค้าลง 50% ภายในปีค.ศ. 2030 ก่อนจะเริ่มใช้แคมเปญนี้อย่างจริงจังได้มีการทดลองเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมาเป็นระยะเวลา 1 เดือนที่ 90 สาขาในกรุงโตเกียวและจังหวัดไซตามะ ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดีจากทั้งลูกค้าและพนักงาน จึงตัดสินที่จะขยายแคมเปญไปทั่วประเทศ
หลังจากประกาศแคมเปญนี้ออกมา กระแสตอบรับจากชาวเน็ตก็มีทั้งด้านบวกและลบค่ะ ด้านบวกก็ออกมาชื่นชมสตาร์บัคส์ว่าไม่ห่วงภาพลักษณ์แบรนด์ และมีการแชร์ประสบการณ์ของชาวเน็ตที่รู้สึกปวดใจ เมื่อจำใจต้องทิ้งอาหารที่เหลือหลังจากปิดร้าน ส่วนด้านลบก็ออกจากแสดงความกังวลเรื่องความแออัดที่อาจจะเกิดขึ้น เมื่อใกล้ถึงเวลาลดราคาสินค้า และความกังวลในเรื่องกำไรที่อาจจะลดลง เป็นต้นค่ะ
ช่วงนี้เราได้เห็นแคมเปญลดปริมาณขยะอาหารของธุรกิจทั้งในไทยและในต่างประเทศมากขึ้นนะคะ ส่วนตัวก็คิดว่าดีเพราะได้อาหารในราคาที่ถูกกว่าปกติ ฝั่งร้านค้าเองก็ได้ลดต้นทุน ถือว่าวิน-วินทั้งสองฝ่ายนะคะ แล้วทุกคนล่ะคะ คิดอย่างไรกับแคมเปญนี้? มาร่วมแชร์ความคิดเห็นกันได้นะคะ
สรุปเนื้อหาจาก: Newslivedoor , Starbucks Japan