ประเทศญี่ปุ่นถึงจะขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศในฝันสำหรับการท่องเที่ยวของใครหลายคน แต่อีกด้านหนึ่งก็เป็นที่รู้กันดีว่า ญี่ปุ่นเป็นประเทศที่ประชากรมีอัตราการฆ่าตัวตายสูงระดับโลก ด้วยรูปแบบการใช้ชีวิตและการทำงานที่สร้างความเครียดและความกดดันให้กับคนในสังคมเป็นอย่างสูง แต่เมื่อเร็ว ๆ นี้ทางรัฐบาลญี่ปุ่นก็ได้ประกาศสถิติที่น่าชื่นใจให้ฟังว่า อัตราการฆ่าตัวตายของชาวญี่ปุ่นในปี 2018 ลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 และลดต่ำสุดตั้งแต่เคยทำการสำรวจมา ถึงกระนั้นก็ยังมีข้อมูลที่น่าเศร้าว่ากลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีกลับมีอัตราการฆ่าตัวตายเพิ่มสูงขึ้นแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
เมื่อวันที่ 16 ที่ผ่านมาทางรัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับเอกสารมาตรการป้องกันการฆ่าตัวตายประจำปี 2019 ที่ภายในมีข้อมูลสถิติอัตราการฆ่าตัวตายของประชากรญี่ปุ่น โดยแสดงให้เห็นว่าในปี 2018 มีอัตราการฆ่าตัวตายของชาวญี่ปุ่นอยู่ที่ 16.5 คนต่อประชากร 1 แสนคน ถือว่าลดลงอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 9 และถือว่าต่ำที่สุดตั้งแต่เริ่มทำการสำรวจเป็นครั้งแรกในปี 1978 แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือ แม้อัตราการฆ่าตัวตายของประชากรโดยรวมจะลดต่ำลง แต่อัตราการฆ่าตัวตายในกลุ่มวัยรุ่นที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปีกลับเพิ่มสูงขึ้น และอยู่ในเกณฑ์ที่แย่ที่สุดตั้งแต่เคยทำการสำรวจมา
ทางกระทรวงสาธารณะสุขและแรงงานของประเทศญี่ปุ่นแสดงความเป็นห่วงต่ออัตราการฆ่าตัวตายที่สูงขึ้นในกลุ่มวัยรุ่น โดยเปิดเผยเพิ่มเติมว่าในโซเชียลเน็ตเวิร์คของกระทรวงสาธารณะสุขฯ ญี่ปุ่นที่ทำขึ้นเพื่อใช้เป็นพื้นที่ในการให้คำปรึกษาปัญหาต่าง ๆ ซึ่งเป็นหนึ่งแนวทางป้องกันการฆ่าตัวตายนั้น ในปี 2018 ที่ผ่านมามีผู้ขอคำปรึกษาสูงถึงราว 22,700 ราย โดยเป็นวัยรุ่นที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะติดต่อเข้ามาขอคำปรึกษามากที่สุดสูงถึง 43.9% รองลงมาคือผู้ที่อยู่ในช่วงอายุ 20 ปี และเป็นผู้หญิงสูงถึง 92%
