นิตยสาร Time Higher Education ประกาศผลการจัดอันดับ ‘มหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกประจำปี 2021’ โดย ‘มหาวิทยาลัยโตเกียว’ ติดอันดับสูงสุดในบรรดามหาวิทยาลัยญี่ปุ่นที่อันดับที่ 35 ซึ่งก้าวขึ้นมาหนึ่งอันดับจากสถิติของปีที่แล้ว
โดยมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกอันดับ 1 ได้แก่ ‘มหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด’ จากสหราชอาณาจักร ที่ติดอันดับ 1 มาอย่างต่อเนื่อง 6 ปีซ้อน, อันดับ 2 ได้แก่ ‘สถาบันเทคโนโลยีแคลิฟอร์เนีย’ และอันดับ 2 ร่วม คือ ‘มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด’ จากสหรัฐอเมริกาเช่นกัน, อันดับที่ 4 ‘มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด’ สหรัฐอเมริกา, อันดับที่ 5 ‘มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์’ สหราชอาณาจักร โดยจากสถิติท็อป 10 อันดับจะเห็นได้ว่า มีมหาวิทยาลัยจากสหรัฐอเมริกาติดอันดับมากถึง 8 แห่ง และมหาวิทยาลัยจากสหราชอาณาจักรติดอยู่ 2 อันดับเลยทีเดียว

นอกจากมหาวิทยาลัยโตเกียวในอันดับที่ 35 แล้ว ยังมีมหาวิทยาลัยจากประเทศญี่ปุ่นที่ติดในอันดับไม่เกินที่ 200 ได้แก่ ‘มหาวิทยาลัยเกียวโต’ รวมกันเพียง 2 แห่งเท่านั้น นอกจากนี้ยังมี ‘มหาวิทยาลัยโทโฮคุ’ ติดในอันดับระหว่าง 201-250, มหาวิทยาลัยโอซาก้าและสถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว ติดในอันดับระหว่าง 301-350 ตามลำดับ
อีกทั้ง ‘มหาวิทยาลัยปักกิ่ง’ และ ‘มหาวิทยาลัยชิงหวา’ ยังติดอันดับ 16 ร่วม ซึ่งถือเป็นมหาวิทยาลัยอันดับต้นในแถบเอเชีย โดยปีนี้มีมหาวิทยาลัยจากประเทศจีนอีกหลายแห่งที่ทยอยติดอันดับเพิ่มขึ้น ซึ่งมหาวิทยาลัยจากจีนที่ติดในอันดับไม่เกิน 200 นั้นมีมากถึง 10 แห่ง และ ‘มหาวิทยาลัยแห่งชาติโซล’ จากประเทศเกาหลี ก็ติดอันดับที่ 54 ในครั้งนี้ด้วย โดยมหาวิทยาลัยแห่งอื่น ๆ ในเกาหลีก็ยังติดในอันดับไม่เกินที่ 200 อีกจำนวน 6 แห่ง รวมทั้ง ‘มหาวิทยาลัยเเห่งชาติสิงคโปร์’ ยังติดอันดับที่ 21 และ ‘มหาวิทยาลัยฮ่องกง’ ก็ติดอันดับที่ 30 ในครั้งนี้ด้วย

สำหรับการจัดอันดับมหาวิทยาลัยที่ดีที่สุดในโลกโดยนิตยสาร Times Higher Education นั้น ได้มีการรวบรวมข้อมูลและประเมินผลจากมหาวิทยาลัยกลุ่มเป้าหมายกว่า 1,662 แห่งจาก 100 ประเทศทั่วโลก ซึ่งจะประเมินจากเกณฑ์ด้านสภาพแวดล้อมทางการศึกษา, ผลลัพธ์ทางงานวิจัย, ความเป็นสากล ฯลฯ รวมทั้งหมด 13 ข้อ อย่างไรก็ตาม แม้มหาวิทยาลัยในประเทศญี่ปุ่นส่วนใหญ่ยังมีปัญหาด้าน ‘ความเป็นสากล’ ที่ต้องแก้ไขอยู่ โดยทางผู้เกี่ยวข้องจากนิตยสารดังกล่าวได้ให้สัมภาษณ์ในเรื่องนี้ว่า “นโนบายในการแก้ปัญหาด้านความเป็นสากลจากรัฐบาลนั้นกำลังส่งผลลัพท์ในทางที่ดี ซึ่งนี่เป็นก้าวสำคัญสำหรับการยกระดับมหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นเลยทีเดียว”
สรุปเนื้อหาจาก : news.line