บริษัทรถไฟฟ้านันไก ผู้ให้บริการรถไฟในภูมิภาคคันไซของประเทศญี่ปุ่น ทดลองการให้บริการ “แตะเพื่อจ่ายด้วย Visa” และ “QR Code” ซึ่งเป็นการทดลองระบบแตะชำระเงินผ่านบัตร Visa ที่ช่องตรวจตั๋วของสถานีรถไฟครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่น คาดเริ่มเปิดอย่างเป็นทางการในฤดูใบไม้ผลิ 2021 นี้
ระบบแตะเพื่อจ่ายด้วย Visa ที่ช่องตรวจตั๋วครั้งแรกในญี่ปุ่น
สำหรับการทดลองในครั้งนี้ เป็นหนึ่งในแผนการที่บริษัทรถไฟฟ้านันไกได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 2020 เพื่อส่งเสริม “การชำระเงินไร้สัมผัส” จากปัญหาการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านการใช้บริการ Cashless และบัตรเครดิตต่าง ๆ นอกจากนี้ การแตะชำระเงินผ่านบัตร Visa ที่มีการให้บริการทั่วโลก ยังเป็นการปูทางไปสู่การจัดงาน World Expo ที่โอซาก้าในปี 2025 อีกด้วย
โดยผู้ใช้บริการสามารถแตะชำระเงินผ่านบัตร Visa ที่ระบบรองรับเพื่อชำระเงินอัตโนมัติที่ช่องตรวจตั๋ว โดยใช้หลักการเดียวกันกับการใช้บัตร IC Card ทางคมนาคมทั่วไปของญี่ปุ่น
อีกทั้ง ยังสามารถซื้อบัตรโดยสารรถไฟล่วงหน้าผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของบริษัทรถไฟนันไก และนำ QR Code จากสมาร์ทโฟนไปสแกนที่ช่องตรวจตั๋วเช่นเดียวกับการแตะชำระเงินผ่านบัตรได้อีกด้วย
นันไกนำเข้าระบบแตะเพื่อจ่ายเพื่อปูทางไปสู่ World Expo 2025
การนำระบบชำระเงินผ่านบัตรเดบิตและบัตรเครดิต จะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางผ่านระบบคมนาคมสาธารณะให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเป็นอย่างมาก ซึ่งไม่เพียงแค่ตัดปัญหาความยุ่งยากในการซื้อบัตรโดยสารรถไฟของบริษัทรถไฟที่มีอยู่มากมายหลายสายแล้ว นักท่องเที่ยวยังสามารถตรวจสอบค่าใช้จ่ายได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วย ซึ่งในต่างประเทศส่วนใหญ่ก็เริ่มหันมาใช้ระบบการชำระเงินผ่านบัตรเครดิตเพียงใบเดียวกันมากขึ้นด้วย
อย่างไรก็ตาม ในลอนดอนหรือสิงค์โปร์ก็ได้มีการติดตั้งเครื่องตรวจตั๋วอัตโนมัติที่รองรับระบบแตะชำระเงินผ่านบัตร Visa มานานแล้ว ซึ่งชาวญี่ปุ่นที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ต่างก็ชื่นชอบระบบนี้ว่า “ใช้ง่าย สะดวกสบาย”
แม้นักท่องเที่ยวต่างชาติในประเทศญี่ปุ่นจะมีจำนวนลดน้อยลงจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในปัจจุบัน แต่ในอนาคตคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นมากขึ้นจากการจัดงาน World Expo 2025 ที่โอซาก้า
อีกทั้ง ยังมีการคาดหวังเป็นอย่างยิ่งว่า ในอนาคตจะมีบริษัทรถไฟในภูมิภาคคันไซพิจารณาหันมาให้บริการแตะชำระเงินผ่านบัตรเครดิตมากขึ้น เพื่อให้ระบบการชำระเงินมีความเสถียรและเป็นไปในทิศทางเดียวกัน และเพื่อป้องกันความสับสนและปัญหาที่อาจเกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวต่างชาติ
สรุปเนื้อหาจาก : yahoo
